ดินเค็ม ดินเปรี้ยว เป็นดินที่เป็นกรดมาก ๆ ทำให้พืชไม่เจริญเติบโตได้ดีเท่าที่ควร ผลผลิตตกต่ำ
ดินเค็ม เกิดจากชั้นดินที่มีเกลือแร่ผสมอยู่มากหากผิวดินร้อนหรือแห้งแล้งไม่มีต้นพืชปกคลุม เกลือแร่จะเกิดขึ้นมาอยู่ที่หน้าผิวดินขึ้นขี้เกลือสีขาวเต็มหน้าดินทำให้ไม่สามารถนำมาใช้ในเกษตรกรรมได
วิธีป้องกันและรักษาดินเค็ม
เกลือจะขึ้นมาอยู่ที่หน้าดินหากปล่อยให้หน้าดินแห้ง หรือไม่มีพืชปกคลุมโดยเฉพาะหน้าแล้งหลังจากเก็บเกี่ยวเพื่อป้องกันหน้าดินแห้งแล้งพยายามหาอินทรีย์วัตถุ (ฮิวมัส) ใส่ที่หน้าดินมาก ๆ เพื่อป้องกันเกลือระเหยขึ้นมาที่หน้าดิน ไม่แนะนำให้ใช้ปุ๋ยเคมีในแปลงที่มีดินเค็ม เพราะเกลือแร่ที่มีในปุ๋ยเคมีจะทำให้ดินเค็มเพิ่มขึ้น และทำให้หน้าดินแข็งกระด้างแน่นทึบ เป็นเหตุให้น้ำไหลลงสู่ในชั้นใต้ดินได้น้อยพอไม่มีน้ำเข้าไปกดเกลือแร่ในชั้นใต้ดินทำให้เกลือแร่ระเหยสู่ผิวดินได้ง่าย
แร่แคลเซียม แมกนีเซียม กำมะถัน และฮิวมัส จะช่วยดูดซับเกลือแร่ผิวดินได้ระดับหนึ่ง การใช้ไปที่หน้าดินจึงช่วยได้ดีพร้อมกับปลูกพืชปกคลุมดิน
ยิปซั่มซัลเฟต เป็นสารที่สามารถใช้ปรับปรุงสภาพความเสื่อมโทรมของดิน และแก้ดินเค็มได้ดี
- แก้ความเค็มของดิน เพราะแคลเซียมในยิปซั่มจะเข้าไปแทนที่โซเดียมในดินเค็ม ทำให้โซเดียมถูกชะล้างออกจากดินได้โดยง่าย ส่งผลให้ระดับความเค็มของดินลดลง
- แก้ปัญหาดินแน่นทึบจากการจับตัวเป็นก้อนของดิน โดยยิปซัมสามารถละลายน้ำและแทรกซึมลงสู่ดินชั้นล่างได้ง่าย ทำให้ดินโปร่งร่วนซุย น้ำและอากาศถ่ายเทหมุนเวียนในดินได้ดี
- ลดการชะล้างพังทลายของหน้าดิน จากการไหลบ่าของน้ำหน้าดิน เนื่องจากโครงสร้างดินที่ดีขึ้น ทำให้การแทรกซึมน้ำจากผิวดินลงสู่ดินชั้นล่างมากขึ้น จึงช่วยลดปัญหาการกัดร่อนและพังทลายของหน้าดินได้
- ลดการสูญเสียแร่ธาตุอาหารพืช เช่น ฟอสฟอรัสที่ละลายได้ ฟอสฟอรัสทั้งหมด แอมโมเนียมไนโตรเจนที่ละลายได้ และไนโตรเจนทั้งหมด
- ยิปซั่มซัลเฟต ยังธาตุอาหารรองที่สำคัญ ได้แก่ แคลเซียม และกำมะถัน
- แคลเซียม ช่วยในการแบ่งเซลล์ของเซลล์พืช และใช้ในกระบวนการภายในเซลล์ เสริมสร้างการเจริญเติบโตตั้งแต่ระดับรากพืชในการดูดธาตุอาหาร ไปจนถึงการแตกกิ่งก้าน ใบ ดอก ผล
- กำมะถัน เป็นองค์ประกอบของกรดอมิโนซีสเทอีน และ เมไอโอนีน กรดอะมิโนทั้งสองชนิดนี้ เป็นสารตั้งต้นที่ช่วยในการสังเคราะห์โปรตีน ดังนั้นพืชที่ขาดกำมะถันจึงสังเคราะห์โปรตีนได้น้อยจึงทำให้ใบเขียวซีด ส่วนใบพืชสีเขียวโดยทั่วไปโปรตีนมีมากอยู่ในคลอโรพลาสต์ คลอโรฟีลล์ พืชที่ขาดกำมะถันจึงมีคลอโรฟิลล์น้อยลง แต่อาจมีแป้งสะสมมากขึ้น
